แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ หมาก แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ หมาก แสดงบทความทั้งหมด

วันศุกร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2553

หมากสง





ชื่อวิทยาศาสตร์ : Areca catechu L.
ชื่อสามัญ : -
ชื่อวงศ์ : -
ชื่ออื่น : หมาก
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
เป็นปาล์มต้นเดี่ยว ขนาดกลาง เส้นผ่าศูนย์กลางลำต้น 15 – 20 เซนติเมตร สูงถึง 25 เมตร ลำต้นเปลาตรง มีปล้องสีขาวเด่นชัด คอยอดสีเขียว กาบใบยาว ประมาณ 80 – 100 เซนติเมตร ลักษณะเป็นท่อห่อหุ้มคอยอด ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก(pinnate) แผ่นใบยาว 1.5 – 2 เมตร มีใบย่อย 20 – 30 คู่ ขนาด 30 – 60 x 3 – 7 เซนติเมตร ใบย่อยแบบรางน้ำคว่ำ (reduplicate)ปลายตัด หยักเป็นซี่ เรียงตัวสม่ำเสมอในระนาบเดียวกัน ช่อดอกออกใต้คอยอด (infrafoliar) ตั้งขึ้น ช่อดอกแยกแขนง 3 ชั้นดอกแยกเพศอยู่ในช่อเดียวกัน บริเวณโคนก้านช่อหรือโคนก้านแขนงจะมีกลุ่มดอก ซึ่งประกอบด้วยดอกเพศเมีย 1 ดอก
ขนาบข้างด้วยดอกเพศผู้ 2 ดอก (triad) ส่วนตอนปลายก้านแขนง จะมีเฉพาะดอกเพศผู้ ดอกมีกลิ่นหอม ออกดอกตลอดปี ผลรูปไข่ขนาด 4 – 6 x 7 – 8 เซนติเมตร ผลอ่อนสีเขียว ผลแก่สีส้ม ผลหนึ่งมี 1 เมล็ด

แหล่งที่พบ : พบขึ้นทั่วไปบริเวณที่ราบโล่ง และมีการปลูกเป็นพืชเศรษฐกิจชนิดหนึ่ง

ประโยชน์
1. เมล็ดช่วยขับปัสสาวะปวดท้องแน่นท้อง บิด แผลเน่าเปื่อย ฆ่าพยาธิ เปลือกผล ช่วยขับลม ขับปัสสาวะ
แก้ท้องอืดแน่น บิด ท้องเสีย ผลอ่อนช่วยเจริญอาหาร ขับเสมหะ แก้เมาอาเจียน ไอ สมานแผล ดอกตัวผู้ เป็นยาหอม บำรุง
กระเพาะ แก้กระหายน้ำ
2. ชาวบ้านนิยมเคี้ยวหมาก โดยนำ เปลือกผลและ เมล็ดอ่อน เคี้ยวร่วมกับพลู

วันจันทร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2553

หมากนวล






ชื่อวิทยาศาสตร์ : Veitchia merrillii (Becc.) H.E. Moore
ชื่อวงศ์ : Palmae
ชื่อสามัญ : Manila palm, Christmas palm
ชื่อพื้นเมือง : หมากคอนวล หมาเยอรมัน หมากมนิลา
ชนิดพืช [Plant Type] : ปาล์มต้นเดี่ยว
ขนาด [Size] : สูงได้ถึง 15 เมตร
สีดอก [Flower Color] : สีเหลืองนวล
อัตราการเจริญเติบโต [Growth Rate] : ช้า
ลักษณะนิสัย [Habitat] : ชอบดินร่วน ระบายน้ำดี
ความชื้น [Moisture] : ปานกลาง
แสง [Light] : แสงแดดจัด

ลักษณะทั่วไป (Characteristic) : ปาล์มต้นเดี่ยว ลำต้นสีน้ำตาลปนเทาขนาดประมาณ 25 เซนติเมตร มีคอสี
เขียวนวลยาว 30-50 เซนติเมตร มีรอยหลุดของก้านใบ ถี่ชัดเจน
ใบ (Foliage) : ใบประกอบแบบขนนก เรียงสลับ ใบย่อยรูปขอบขนาน กว้าง 2-5 เซนติเมตร ยาว 45-75
เซนติเมตร ปลายใบเรียวแหลม โคนใบรูปลิ่ม แผ่นใบสีเขียว
ดอก (Flower) : สีเหลืองนวล ออกเป็นช่อแบบช่อแยกแขนงใต้โคนกาบใบ ดอกแยกเพศอยู่ร่วมต้น ช่อดอกยาวประมาณ 30 เซนติเมตร
ผล (Fruit) : ผลสดแบบมีเนื้อเมล็ดเดียว ทรงกลมรี ขนาดประมาณ 3 เซนติเมตร ติดผลจำนวนมาก ผลสุกสีีแดงส้ม
การใช้งานด้านภูมิทัศน์ (Landscape Used) : ทรงพุ่มสวย นิยมปลูกเป็นกลุ่ม หรือเป็นแถว ริมถนน ริมทางเดิน ในสวนสาธารณะ ปลูกริมทะเลได้

วันพฤหัสบดีที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2553

หมากเขียว



ชื่อไทย หมากเขียว
ชื่อสามัญ Mac Arthur palm
ชื่อวิทยาศาสตร์ Ptychosperma macarthuri
ตระกูล PALMAE
วงศ์ PALMAE
ถิ่นกำเนิด หมู่เกาะนิวกินี

ลักษณะโดยทั่วไป
หมากเขียวนี้จะแตกหน่อขึ้นเป็นกอรอบลำต้นลักษณะของกอสูงประมาณ 10 - 20 ฟุต ลำต้นมีขนาด 3 - 4 นิ้ว มีสีเขียวปนเทาหรือน้ำตาลปนเทา เมื่อแก่มีข้อปล้องที่มองเห็นได้ชัดที่ลำต้นใบมีสีเขียวแก่ ส่วนใต้ใบสีเขียว อ่อนมีลักษณะรูปขนนก ทางใบยาวประมาณ 8 - 9 ฟุต ก้านใบยาว 1 - 2 ฟุต ใบย่อยยาวประมาณ 3 - 4 ฟุต ปลายใบตัดและเป็นฟันแหลม นิยมปลูกเป็นไม้ประดับกันมาก สามารถอยู่ได้ทั้งในร่มและกลางแดด

การดูแลรักษา
แสง ชอบแสงแดดจัด ควรปลูกเอาไว้กลางแจ้ง
น้ำ ต้องการน้ำพอประมาณ
ดิน เจริญเติบโตได้ในดินแทบทุกชนิด
ปุ๋ย ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก ปีละ 2 ครั้ง
การขยายพันธ์ โดยการเพาะเมล็ด แยกหน่อ
โรคและแมลง โรคไม่ค่อยพบ ส่วนมากจะพบเพลี้ยโดยเฉพาะหน้าร้อน
การป้องกันกำจัด ฉีดพ่นด้วยมาลาไธออนหรือไดอาซินอนตามอัตราที่ระบุไว้ในฉลาก

หมากเหลือง




หมากเหลือง Areca Palm หรือ Yellow Palm
ภายใต้สภาพแวดล้อมห้อง หมากเหลืองขนาดสูง 1.8 เมตรจะคายน้ำประมาณ 1 ลิตร ทุกๆ 24 ชั่วโมง ในบรรดาไม้ประดับดูดสารพิษด้วยกัน หมากเหลือง เป็นพืชที่ดูดสารพิษจากอากาศได้ในประมาณมากที่สุดชนิดหนึ่งที่แนะนำให้ปลูกไว้ใน อาคารสำนักงาน หรือ บ้านเรือน


หมากเหลือง เป็นไม้ประดับภายในอาคารที่เป็นที่นิยมมากชนิดหนึ่ง เพราะมีความสวยงาม มีความทนต่อสภาพแวดล้อมภายในอาคารและคายความชื้นให้แก่อากาศภายในห้องได้เป็นจำนวนมาก ในขณะที่มีประสิทธิภาพสูงในการดูดสารพิษจากอากาศได้ในปริมาณมากเช่นกัน หมากเหลืองเป็นพืชตระกูลปาล์มที่ปลูกง่าย โตเร็ว เป็นพันธุ์ไม้ขนาดกลาง สูงประมาณ 5–10 เมตร ลำต้นมีลายคล้ายข้อปล้อง โค้งงอและตั้งตรงได้สัดส่วนสวยงาม เจริญพันธุ์ด้วยการแตกหน่อเป็นกอประมาณ 5–12 ต้น ใบมีลักษณะเป็นรูปขนนก แผ่นใบมีสีเขียวอมเหลือง ออกดอกเป็นช่อสีเหลืองอ่อนเป็นอยู่ใต้กาบใบ


ชื่อวิทยาศาสตร์ : Chrgsalido carpus lutesers
วงศ์ : Arecaceae (Palm)
ถิ่นกำเนิด : มาดากัสก้า
แสงแดด : แดดจัด
อุณหภูมิ : 18–24 องศาเซลเซียส
ความชื้น : ต้องการความชื้นสูง
น้ำ : ต้องการน้ำมาก
การดูแล : ควรให้น้ำตอนเช้าวันละครั้ง แต่อย่าให้แฉะ ให้ปุ๋ยคอกอย่างสม่ำเสมอเดือนละ 1 ครั้ง หมั่นฉีดพ่นใบด้วยละอองน้ำ จะช่วยป้องกันแมลงได้
การปลูก : นิยมปลูกลงกระถาง โดยใช้ดินที่สมบูรณ์ มีส่วนผสมของดินร่วน ทรายแกลบ ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก เศษใบไม้ผุ ในอัตราส่วน 4:2:1:2:1
การขยายพันธุ์ : เพาะเมล็ดหรือแยกกอ
อัตราการคายความชื้น : มาก
อัตราการดูดสารพิษ : มาก

วันพุธที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2553

หมากแดง






ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cyrtostachys renda Blume
ชื่อสามัญ : -
ชื่อวงศ์ : -
ชื่ออื่น : กับแดง

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
เป็นปาล์มแตกกอ ขนาดกลาง เส้นผ่าศูนย์กลางลำต้น 6 -10 เซนติเมตรสู งถึง 20 เมตร ลำต้ นเปลาตรง มั กมีรากอากาศช่วยพยุ งลำต้นให้พ้นน้ำ ซึ่งเป็นลักษณะของพันธุ์ไม้ที่ขึ้นในพื้นที่น้ำท่วมขัง คอยอดสีแดงเด่นชัด กาบใบรูปท่อสีแดงยาว 70 – 100 เซนติเมตร ก้านใบและแกนกลางใบสีแดงยาวตลอดถึงปลายใบ ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก ก้านใบยาว 5 –10 เซนติเมตร แกนกลางใบยาว 1.6 – 2 เมตร มีใบย่อยเรียวยาว ขนาด 45 – 55 x 4 – 7 เซนติเมตร จำนวน 25 – 35 คู่ เรียงเป็นระเบียบสม่ำเสมอในระนาบเดียวกัน ปลายใบแหลม หลังใบสีเขียวเข้มท้องใบสีเทาเงิน ช่อดอกออกใต้คอยอด (infrafolia) ห้อยลง ยาว 70 – 90 เซนติเมตร มีก้านช่อย่อยหลายอัน ดอกไม่มีก้านติดแน่นบนแกนกลางช่อ (spadix) ออกดอกประมาณ
เดือนสิงหาคม - เมษายน ผลขนาดเล็ก รูปไข่ผิวเรียบมัน ขนาด 6 x 10 มิลลิเมตร ผลอ่อนสีเขียว ผลสุกสีดำ มี 1 เมล็ด ติดผลจำนวนมาก

แหล่งที่พบ : พบขึ้นในป่าพรุ